คุณใช้คอมพิวเตอร์ทำอะไร
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือคิดให้ดีก่อนว่าคุณต้องการใช้คอมพ์ทำอะไรบ้าง ลองถามตัวเองว่าคุณเป็นนักเล่นเกมส์ตัวยง หรือชอบใช้งานเกี่ยวกับมัลติมีเดียต่างๆ คุณอยากได้คอมพ์ที่มีภาพคมชัดพอๆ กับประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง หรืออยากได้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานไม่ค่อยบ่อย คุณต้องการคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กก็ไม่ต่างกัน คุณทำงานอะไรและชอบทำอะไรในเวลาว่าง คุณชอบติดตามข่าวสารต่างๆ หรือดูวิดีโอแม้แต่ในเวลาเดินทางรึเปล่า คุณเท่านั้นที่จะตอบคำถามพวกนี้ได้ แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร เรามาลองดูคำถามที่มักจะพบบ่อยที่สุดเวลาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
แท็บเบล็ต สมาร์ทโฟน เน็ตบุ๊ค หรือ พีซี จะซื้อแค่เครื่องเดียวหรือต้องมีทั้งหมด
แท็บเบ็ลต สมาร์ทโฟน และเน็ตบุ๊ค เป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูคอนเท้นท์ต่างๆระหว่างเดินทาง หรืออ่านอีเมลบนโซฟาอยู่ที่บ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีเสริมนอกเหนือจากเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แม้ในเวลาที่คุณไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพ์
สมาร์ทโฟน แท็บเบล็ต และเน็ตบุ๊ค มีขนาดเหมาะสำหรับพกพา และได้รับการดีไซน์มาเพื่อตอบสนองการชมสื่อต่างๆ และการสื่อสารของคุณเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ไม่ใช่สำหรับการสร้างงาน หรือการทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เพราะขนาดที่เล็กทำให้ขนาดของจอและสมรรถนะในการประมวลผลน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นถ้าคุณต้องการถ่ายภาพ ตัดต่อภาพแชร์ภาพและวิดีโอ รวมไปถึงดูซีรี่ส์สุดโปรดบนโซฟาที่บ้าน หรือต้องเขียนอีเมล และเอกสารอื่นๆ อย่างเต็มที่ เครื่องคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
คุณต้องการประสิทธิภาพของเครื่องแค่ไหน
ซีพียู หรือที่หลายคนอาจจะเรียกว่า ชิป หรือ โปรเซสเซอร์ เป็นอุปกรณ์ชิ้นหลัก ที่มีความสำคัญที่สุดในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ก็ว่าได้เพราะซีพียูเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องในทุกส่วน หากคุณกำลังมองหาเครื่องคอมพิวเตอร์สักเครื่อง คุณจำเป็นต้องเข้าใจการทำงานของซีพียู ซีพียูจะช่วยรองรับการทำงานของส่วนประกอบชิ้นอื่นๆ รวมทั้งซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้ทำงานได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น
เมื่อคุณไปที่ร้านขายคอมพิวเตอร์ อาจจะมีรายละเอียดอื่นๆ ที่คนขายนำเสนอและอาจจะทำให้คุณสับสนเช่น แรม กราฟิกการ์ด หรือเมมโมรี่ของเครื่อง แต่เริ่มต้น สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้จักคือซีพียู หรือชิปที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
หลายคนอาจชอบทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น อ่านอีเมลไปพร้อมกับดาวน์โหลดเพลงออนไลน์และเข้าเว็บไซต์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ของคุณจึงต้องคิดให้เร็วขึ้นและฉลาดขึ้นเพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้งานของคุณ คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นมีคุณสมบัติในการประมวลผลด้วยเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย เช่นเทอร์โบ บูสต์ และ Hyper-Threadingซึ่งช่วยให้คุณทำงานหลายอย่างได้พร้อมกัน อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่ฉลาดล้ำ เปรียบได้กับคนที่มีไอคิวสูงที่ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า ดังนั้นในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์แต่ละครั้ง ถ้าคุณเลือกโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่มีการทำงานที่ฉลาด และสามารถรองรับการทำงานที่เพิ่มขึ้นได้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด
สิ่งที่ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ตัดสินใจผิดพลาดบ่อยครั้งคือ การเลือกซื้อหรือเพิ่มอุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ที่มีราคาแพง แต่ไม่ได้คำนึงถึงอุปกรณ์หลักที่จะเป็นสมองสั่งงานของเครื่อง ทำให้ไม่สามารถใช้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างเต็มที่
ความเชื่อผิดๆ ที่มักเกิดขึ้นตอนเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
หลายคนอาจเลือกที่จะเพิ่ม แรม (RAM) หรือความจุของฮาร์ดดิสก์ที่มากขึ้น รวมทั้งซื้อแบตเตอรี่สำรองเพิ่มเติม เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยแลกกับโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานช้าลงโดยหารู้ไม่ว่าเป็นการทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่
แรมเป็นส่วนเก็บความจำชั่วคราว ช่วยรองรับการทำงานทั่วไปของเครื่องพีซีซึ่งสำหรับการทำงานทั่วไป แรมขนาด 4 กิกะไบต์จัดว่าเพียงพอแล้ว คุณสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ทั่วๆ ไป เล่นเกมส์ 3 มิติ ตัดต่อไฟล์วิดีโอ เข้าเว็บไซต์ เล่นเพลงจาก iTunesและทำงานเอกสารต่างๆ รวมทั้งส่งอีเมล ได้พร้อมๆ กันอย่างราบรื่น
การเพิ่มแรมจาก 4 กิกะไบต์ขึ้นเป็น 6 หรือ 8 กิกะไบต์ จะช่วยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นหากใช้แรม 4 กิกะไบต์เท่าเดิมโดยอัพเกรดโปรเซสเซอร์ให้สูงขึ้น
นอกจากเรื่องขนาดของแรมแล้ว อาจมีเพื่อนผู้หวังดี หรือกูรูด้านไอที ที่พูดถึงความเร็วของซีพียู ซึ่งเมื่อก่อนความเร็วของซีพียูที่มีหน่วยวัดเป็นกิกะเฮิร์ตซ์เป็นตัวบ่งบอกถึงความเร็วในการทำงาน
แต่ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่อีกต่อไป เทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยช่วยให้ซีพียูสามารถทำงานได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องเร่งความเร็ว ด้วยเทคโนโลยีใหม่จาก อินเทล™ เทอร์โบ บูสต์ 2.0 ซึ่งมีอยู่ในซีพียู จะช่วยให้ซีพียูเร่งความเร็วได้ตามที่ต้องการ สามารถทำงานได้เร็วขึ้นในทันทีที่ต้องทำงานหนัก เช่น การประมวลผลไฟล์วิดีโอแบบไฮเดฟินิชั่น, ส่งภาพถ่ายจำนวนมาก หรือเล่นเกมส์ 3 มิติ รวมทั้งเปิดใช้แอพพลิเคชั่นอื่นๆ เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และปรับเข้าสู่การทำงานแบบประหยัดพลังงานในเวลาที่ใช้งานน้อย
หากคุณเป็นคนที่ชอบทำหลายอย่างพร้อมกัน เช่น เปิดหน้าต่างทำงานทิ้งไว้กว่า 20 หน้าจนทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ค้าง การมีซีพียูที่มีความเร็วมากขึ้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อซีพียูที่มีความสามารถในการช่วยให้คุณทำงานหลายอย่างได้พร้อมๆ กันอย่างไม่ติดขัด ซึ่งเทคโนโลยี อย่างเช่น Hyper Threading สามารถตอบโจทย์นี้
ลองจินตนาการถึงเวลาที่คุณจิบน้ำชา คุณสามารถรินน้ำชาได้ทีละแก้ว เทคโนโลยี Hyper Threadingจะใช้งานคอร์หลายตัวในซีพียู โดยส่งพลังงานให้คอร์แต่ละตัวในเครื่องซีพียูสามารถทำงานได้พร้อมกัน เหมือนกับคุณมีกาน้ำชา 2 ปาก เพื่อให้รินน้ำชาได้ทีละหลายแก้ว นอกจากนี้ภายใน อินเทล™คอร์™โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 ตัวล่าสุด เทคโนโลยี Hyper Threadingยังช่วยเพิ่มจำนวน thread ทำให้คุณสามารถทำงานได้มากถึง 8 รายการในเวลาเดียวกันอีกด้วย
เมื่อนำเทอร์โบ บูสต์ เทคโนโลยี มารวมกับ เทคโนโลยี Hyper Threadingจะช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้นในเวลาที่สั้นลง ทำให้คุณไม่ต้องนั่งรอเครื่องทำงาน และจะคุณสามารถประหยัดเวลาได้สูงสุดถึง 4 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
กราฟิกการ์ด ควรใช้แบบรวมอยู่ในชิปหรือแบบแยก
ผู้บริโภครุ่นใหม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งเกิดจากการกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นเกมส์ ดูไฟล์วิดีโอจาก วีดีโอ หรือ ยูทูป ชมภาพยนตร์แบบบลูเรย์ ทำให้ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ต้องการรับชมภาพแบบสมจริงและต่อเนื่องโดยไม่สะดุด กราฟิกจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์
เวลาคุณพิจารณาซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์ ตัวเลือกที่มีคือ กราฟิกชิปแบบที่รวมอยู่ในซีพียู หรือแบบแยก ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ที่ผสานกราฟฟิกชิปรวมในซีพียู จะทำให้คุณสามารถรับชมภาพที่ดียิ่งขึ้น
คุณสมบัติในการรับชมภาพจาก Intel® HD Graphicซึ่งรวมอยู่ใน อินเทล™คอร์™ ไอ 3, อินเทล™ คอร์™ไอ 5 และอินเทล™คอร์™ไอ7 โปรเซสเซอร์ จะตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานเพื่อความบันเทิง ด้วยภาพคมชัดและต่อเนื่อง ไม่ว่าเวลาที่คุณเล่นเกมส์ 3 มิติ หรือ ดูภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ตามปกติ สิ่งที่คุณเห็นจะดูตื่นตาตื่นใจ และเล่นโดยไม่มีสะดุดหรือติดขัด
เวลาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ การใช้กราฟิกสูงๆ กับซีพียูรุ่นเริ่มต้น ถือเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย เพราะซีพียูรุ่นเริ่มต้นๆ ยังจะคงจะมีการทำงานที่ติดขัด การจับคู่ดังกล่าวจึงไม่ช่วยให้คุณได้ประสิทธิภาพของกราฟิกอย่างเต็มที่
คุณไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับกราฟิกการด์แบบแยกรุ่นไฮเอนด์ เพื่อใช้ตัดต่อ และแชร์วิดีโอออนไลน์ หรือเข้าดูสื่อมัลติมีเดียบนเว็บไซต์ต่างๆ เช่นFacebookหรือ เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี Intel® Quick Sync Video จะช่วยย่นระยะเวลาในการตัดต่อและแชร์วิดีโอ รวมไปถึงสตรีมคอนเท้นท์ไปยังอุปกรณ์อื่น จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง หรือดูหนังเวลาระหว่างเดินทางเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา กราฟิกการด์แบบแยกจะใช้เพื่อส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังหน้าจอทีวี ซึ่งในบางครั้งต้องใช้สายเคเบิ้ลเข้ามาเสริม แต่ด้วย Intel® Wireless Displayซึ่งรวมอยู่ในซีพียู อินเทล™ คอร์ ™ โปรเซสเซอร์ตัวใหม่ล่าสุด ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เพราะคุณสามารถต่ออินเตอร์เน็ตจากโน้ตบุ๊กสู่โทรทัศน์ได้ คุณสามารถนั่งรวมกันหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่บ้านพร้อมเพลิดเพลินไปกับการดูบลูเรย์ และภาพยนตร์ 3 มิติ ที่มีความคมชัดระดับ 1080pจากห้องนั่งเล่นที่บ้านของคุณ
ถ้าคุณเป็นคนชอบเล่นเกมส์ 3 มิติ หรือใช้แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม วิศวกรรม หรือแอพพลิเคชั่นอื่นที่เน้นการใช้กราฟิกดีไซน์ระดับสูง หรือเน้นการตัดต่อวิดีโอแบบมืออาชีพ คุณจะไม่ได้รับชมภาพ 3มิติอย่างเต็มที่ตามต้องการ หากซื้อกราฟิกการด์แบบแยกราคแพงแต่ไม่ซื้อซีพียูที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ในขณะที่เราลงทุนกับบ้านและรถ คอมพิวเตอร์มีความสำคัญเพิ่มขึ้น โดยคอมพิวเตอร์กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของการทำงานหลายอย่างภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือเพื่อความบันเทิงดังนั้นการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์จึงควรมีการศึกษาให้เข้าใจจนสามารถเลือกได้เหมาะกับกิจกรรมต่างๆ และได้ประสิทธิภาพที่ตรงใจคุณ โดยเริ่มต้นที่การเลือกซีพียูที่เหมาะสมกับการทำงาน และควรเลือกเทคโนโลยีใหม่ที่สุดที่มีในขณะนั้นเพราะคุณจะใช้งานไปได้อีกนาน ถ้าคุณเลือกเทคโนโลยีที่เก่าจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนเครื่องเร็วขึ้นเพราะซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และอย่าลืมว่าการอัพเกรดส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริงจะเป็นการทำให้สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น